Author: Nicholas Edwards

4 ความเชื่อโบราณ กุศโลบายที่คนไทยเชื่อสนิทใจ

ความเชื่อโบราณเป็นสิ่งที่เคยได้ยินมาตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยความเป็นเด็กก็มักจะเชื่อเมื่อผู้ใหญ่บอก เมื่อโต ขึ้นสิ่งนี้ก็ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอยู่เสมอ บางครั้งก็ไม่เห็นด้วยและเกิดสงสัย แน่นอนสิ่งที่จะทำต่อไปคือหา คำตอบว่าทำไมคนโบราณถึงเชื่อแบบนั้น วันนี้เราได้รวบรวม 4 ความเชื่อโบราณมาแล้ว ไปดูกันว่ามีเรื่อง เกี่ยวกับอะไรบ้างมาดูกัน

1.ก่อนออกจากบ้านห้ามเหยียบธรณีประตู 

ไม่เพียงเป็นความเชื่อของคนโบราณเท่านั้น ยังมีตำนานเล่าขานกันต่อ ๆ ว่าเป็นจุดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ทำหน้าที่ปกปักรักษา ทุกครั้งที่เดินข้ามไปมาจะต้องก้าวให้พ้น

ความเป็นจริง : ในสมัยก่อนคนโบราณมักจะมีบ้านใกล้แม่น้ำลำคลอง ทำให้บ้านมีธรณีประตูสูง ๆ เพื่อป้องกันน้ำ ฝุ่นและที่สำคัญบ้านไหนมีเด็ก จะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กคลานออกมา ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ 

2.ไม่ควรตากผ้าข้ามวันข้ามคืน

           ตามความเชื่อว่ากันว่าหากตากผ้าข้ามคืน ผีกระสือจะเอาไปเช็ดปาก บอกแบบนี้ไปคนโบราณคนไหนก็ต้องรีบเก็บผ้าอย่างไว เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบที่ว่า

ความเป็นจริง:  การตากผ้าในช่วงกลางคืนอาจถูกลักขโมยได้ ในอีกเหตุผลถัดมาที่อาจสร้างอันตรายคือสัตว์มีพิษชนิดต่าง ๆ อาจเข้ามาอาศัยอยู่ในเสื้อผ้า ซึ่งสัตว์เหล่านั้นอาจเข้ามาพร้อมกับเสื้อ 

3.เวลาเดินขึ้นบันไดห้ามเดินข้ามขั้น

คนโบราณเชื่อว่าหากเดินข้ามขั้นบันไดไม่ว่าจะทำอะไรก็จะไม่ประสบความสำเร็จ มักพบเจอแต่ความลำบาก ใครที่มีนิสัยการเดินข้ามขั้นบันไดเลิกทำเลย หากไม่อยากเป็นตามที่โบราณท่านได้กล่าวไว้ข้างต้น

ความเป็นจริง : สำหรับความเชื่อนี้ไม่เพียงเป็นแค่คำเตือนเท่านั้น ยังถือเป็นคติสอนใจด้วยว่า การทำอะไรก็ตามควรค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ไม่ควรทำอะไรข้ามขั้น ดั่งเช่นการเดินขึ้น-ลงบันไดที่ควรก้าวทีละขั้นนั้นเอง

4.เวลานอนห้ามหันหัวไปทางทิศตะวันตก

ความเชื่อนี้ทุกคนจะต้องเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งก่อนจะนอนก็ต้องเช็คก่อนว่าที่ตรงนั้นเป็นทิศอะไร หากเป็นทิศตะวันตกควรเปลี่ยนฝั่งทันที สาเหตุที่ห้ามเพราะเป็นทิศของคนตาย หากหันหัวไปฝั่งนั้นอาจฝันร้ายและหลับไม่สนิท

ความเป็นจริง :  หากมองในหลักความเป็นจริง เป็นทิศตะวันตกฝั่งที่รับแสงแดดนานที่สุด ผนังจึงเก็บความร้อนได้มากทีเดียว ด้วยอุณหภูมิที่สูงแบบนี้ไม่ว่าใครก็หลับไม่ลง

9 สาเหตุหน้าแก่ก่อนวัย

การใช้ชีวิตที่ขาดความรู้นำสู่การสร้างโรคและทำร้ายร่างกายให้เสื่อมก่อนวัยอันควร หน้าแก่ก่อนวัยก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของหนุ่มสาว อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ความแก่มาเยือนผิวหน้าก่อนถึงเวลาอันควร ไปดูกัน 

  1. ตากแดดจัดขาดการปกป้อง 

เพราะแสงแดดมีรังสี UV, UVB ที่เป็นสาเหตุให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวคล้ำเสีย เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น ในคนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง มีโอกาสสัมผัสแดดบ่อย ๆ จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป และควรเลี่ยงการสัมผัสช่วงแดดจัด 

  1. ดื่มน้ำน้อย 

ร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 70% เราควรทยอยดื่มน้ำให้ได้ 1.5-3 ลิตร/วัน เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดการแตกแห้ง เป็นขุย ป้องกันผิวเหี่ยวย่น 

  1. ผิวแห้ง 

มีพฤติกรรมดื่มน้ำน้อย ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมขอแอลกอฮอล์ ขาดการใช้ครีมบำรุงผิว ล้างหน้าด้วยน้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไป เช็ดผิวหน้ารุนแรง เป็นต้น

  1. ทานหวาน  

น้ำตาลตัวอันตรายเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างของคอลลาเจนเกิดการทำลายอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนสร้างผิวกระชับและยืดหยุ่น ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ เร่งผิวหนังแห้ง มีริ้วรอยลึก หย่อนคล้อย องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) แนะนำให้ผู้ใหญ่และเด็กบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม/วัน ตัวอันตรายอันดับต้นๆ คือ น้ำอัดลม ในปริมาณ 450 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 10.75 ช้อนชา และชานมไข่มุก ใน 350 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 11.25 ช้อนชา เป็นต้น 

  1. นอนดึก-ท่านอนไม่เหมาะสม 

การนอนดึก นอนไม่เป็นเวลาจะสกัดกั้นการทำงานของโกรทฮอร์โมน (สร้างการเติบโต) ที่จะหลั่งมาทำหน้าที่ซ่อมแซม เร่งการเติบโตในช่วงเวลานอน (หลัง 4 ทุ่ม) ทำให้ผิวหน้าไม่ได้รับการซ่อมแซมตามธรรมชาติ นอกจากนี้ท่านอนคว่ำจะทำให้เกิดรอยย่นที่หน้าผากและแก้มได้ง่าย การนอนหงายจึงเป็นท่านอนที่เหมาะสมที่สุด 

  1. กินตอนดึก  ส่งผลให้เกิดการยับยั้งการหลั่งของฮอร์โมนต้านความแก่ คือ เมลาโทนิน 
  1. แต่งหน้าจัด ล้างไม่สะอาด 

ในเครื่องสำอางมีสารเคมีที่พร้อมทำลายผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่อ่อนโยนต่อผิว หรือล้างไม่สะอาดจะเกิดการตกค้างของสารเคมีทยอยทำร้ายผิวอย่างต่อเนื่อง 

  1. พฤติกรรมทำหน้าแก่ 

เช่น แสดงอารมณ์ผ่านใบหน้ามากเกินไปทำให้กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังบนใบหน้าทำงานหนัก และทำให้เกิดริ้วรอยและร่องลึกได้ง่าย เช่น การขมวดคิ้ว เบะปาก, การเคี้ยวหมากฝรั่งนาน ๆ เช่น วันละ 20 นาทีทำให้เกิดรอยย่นรอบปาก

  1. การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ตัวการสร้างอนุมูลอิสระ ยิ่งดื่มยิ่งสูบยิ่งแก่เร็ว

จะเห็นได้ว่าทั้ง 9 สาเหตุหน้าแก่ดังกล่าวข้างต้นเกิดจากพฤติกรรมประจำวันที่เราสร้างขึ้นมาทำลายผิวหน้าของเราเองทั้งสิ้น เพียงใส่ใจ ลด ละ เลิก ป้องกัน ดูแล ปัจจัยเสี่ยงที่พร้อมทำลายผิวพรรณเหล่านี้ ก็สามารถให้สุขภาพผิวดำเนินสภาพไปตามวัยได้อย่างเหมาะสม

วันออกพรรษาคืออะไร มีพิธีสำคัญอะไรบ้าง

วันออกพรรษา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันปวารณา” หรือ “วันมหาปวารณา” ตรงกับขึ้น   15 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนาสืบเนื่องจาก “วันเข้าพรรษา” ที่เกิดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ที่พระภิกษุสามเณรจะเริ่มจำพรรษาตลอดฤดูฝนเป็นเวลา 3 เดือน ในระหว่างนี้พระภิกษุสงฆ์ได้อยู่ร่วมกันใกล้ชิดจึงเห็นข้อบกพร่องของกันและกัน วันออกพรรษาจึงจัดเป็น “วันปวารณา”เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ตักเตือนกันโดยปราศจากอคติในเรื่องความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ซึ่งต่างต้องเปิดใจยอมรับนำไปปรับปรุงพฤติกรรมให้ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อความบริสุทธิ์ในศีลและความสามัคคีในหมู่สงฆ์  จากนั้นจึงได้รับสิทธิ์ให้ไปพักค้างที่อื่นได้ โดย ไปไหนไม่ต้องบอกลา, ไม่ต้องถือผ้าไตรครบชุด,ลาภที่เกิดขึ้นแก่ท่านมีสิทธิ์รับได้ และมีโอกาสรับอนุโมทนากฐิน 

กิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ พุทธศาสนิกชนจะเข้าวัดตักบาตร ทำบุญ ฟังธรรม ถือศีล ปฏิบัติธรรม ที่วัด มีกิจกรรมเป็นเอกลักษณ์ คือ พิธี “ตักบาตรเทโว” หรือ “เทโวโรหนะ” แปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก เชื่อกันว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์หลังจากแสดงธรรมโปรดพระมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “การตักบาตรดาวดึงส์” และเรียกวันที่ทำพิธีตักบาตรนี้ว่า “วันเทโว” หรือ “วันพระเจ้าเปิดโลก” เพราะเชื่อว่าเป็นวันที่โลกทั้ง 3 คือ เทวโลก มนุษยโลก และนรกภูมิ ได้เปิดออกให้สามารถมองเห็นกันได้

การตักบาตรเทโว มักจะทำในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 (ถัดจากวันออกพรรษา) หรืออาจจัดในวันออกพรรษา เป็นพิธีตักบาตรพระสงฆ์ที่เดินรับบาตรเป็นขบวน ในบางพื้นที่อาจมีขบวนแฟนตาซีที่สะท้อนถึงเทวดา มนุษย์ และเปรตจากนรกภูมิ พร้อมดนตรีขับกล่อมบรรเลงนำหน้าขบวนพระภิกษุสามเณร บางวัดที่มีที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ก็จะมีขบวนพระภิกษุสามเณรเดินลงมารับบิณฑบาตเบื้องล่าง ของที่ตักบาตรจะเป็นอาหารคาว หวาน และมี “ข้าวต้มมัด” เป็นสัญลักษณ์สำคัญ ทั้งนี้กิจกรรมในแต่ละภูมิภาคจะมีความพิเศษแตกต่างไปอีก ดังนี้

ภาคกลาง ในพื้นที่ที่ริมแม่น้ำลำคลอง ชาวบ้านจะจัดให้มีพิธีรับพระ โดยจะอัญเชิญพระพุทธรูปยืนลงบุษบกในตัวเรือแล้วแห่ไปตามลำคลอง ชาวบ้านริมคลองจะโยนดอกบัว และข้าวต้มให้ตกในเรือหน้าพระ-พุทธรูป, ในจังหวัดปทุมธานี ชาวไทยเชื้อสายมอญ มี “พิธีตักบาตรพระร้อย” และยังมีกิจกรรมแข่งเรือชิงรางวัลอีกด้วย   

ภาคใต้ จัดให้มี “พิธีชักพระ” หรือ “ลากพระ” โดยมี 2 แบบคือ ชักพระบก และชักพระน้ำ 

ภาคอีสาน มีประเพณี “แห่ปราสาทผึ้ง”, แถบจังหวัดหนองคาย อ.โพนพิสัย จัดงาน “แห่บั้งไฟพญานาค”

ภาคเหนือ มีการปล่อยโคมลอย,ประเพณี “จองพาราของชาวไทยใหญ่” จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นต้นนอกจากกิจกรรมที่กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้ว งานบุญกฐิน ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปจะร่วมกันทำบุญให้กับวัดที่ตนมีความศรัทธา วันออกพรรษาจึงถือเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนจะให้ความสำคัญ และวางมือจากงานมาร่วมทำกิจกรรมพักกายใจ น้อมนำพระธรรมมานำทางชีวิตต่อไป 

5 กิจวัตรประจำวันที่นำไปสู่ความสำเร็จ

ใครเคยคิดว่าความสำเร็จเกิดขึ้นได้บนโต๊ะทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เท่านั้น บอกเลยว่าความเชื่อเหล่านั้นไม่เป็นจริงเสมอไป เพราะกิจวัตรประจำวันแทบทุกด้านล้วนส่งผลต่อลักษณะการดำเนินชีวิตของแต่ละคนอย่างชัดเจน ซึ่งเหล่าคนดัง เศรษฐี และนักธุรกิจต่างยืนยันความจริงเรื่องนี้ด้วยกันทั้งนั้น แต่ใช่ว่ากิจวัตรทุกแบบจะให้ผลเหมือน ๆ กัน มีบางกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตมากกว่าอย่างอื่น ซึ่งเราจะพาไปดูว่ามีกิจวัตรประจำวันอะไรบ้างที่สามารถนำไปสู่เป้าหมายได้

  1. ตื่นนอนแต่เช้า

การตื่นนอนแต่เช้ามักจะส่งผลให้บุคคลนั้นมีอารมณ์ดี เพราะไม่ต้องเร่งรีบทำกิจวัตรประจำวันอื่นอย่างร้อนรนก่อนออกไปทำงาน และมีเวลาใคร่ครวญสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น นอกจากนั้นการได้ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ช่วยเพิ่มไอเดียใหม่ ๆ ให้สามารถต่อยอดแนวคิดต่าง ๆ ไปได้ไกลกว่าที่เคยเป็น จึงส่งผลให้เข้าใกล้ความสำเร็จไปได้อีกขั้น

  1. ทำตามแผนอย่างจริงจัง

คนที่ประสบความสำเร็จมักมีการวางแผนชีวิตอย่างรอบคอบ โดยแผนการเหล่านั้นมักผ่านการพิจารณาไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และแน่นอนว่าคนที่ทำตามแผนได้สำเร็จจะได้รับผลลัพธ์ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ ดังนั้นการวางแผนต่าง ๆ ต้องถูกคิดขึ้นมาจากหลักของความเป็นไปได้ สามารถทำตามได้ในชีวิตจริง และต้องมีพลังกายพลังใจที่จะขับเคลื่อนเป้าหมายนั้นไปให้ไกลเท่าที่ต้องการ

  1. อ่านทุกวัน

การอ่านเป็นบ่อเกิดของความรู้ใหม่ ๆ ในอดีตการอ่านอาจจะยึดติดอยู่แค่การศึกษาเพิ่มเติมจากในหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันมีแหล่งความรู้ใหม่ ๆ มากมายทางช่องทางออนไลน์ จึงทำให้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ลึกและว่องไวกว่าที่เคย อย่างเช่นเราจะหาดูผลบอลออนไลน์ ก็สามารถดูได้ทางผลบอล7m ดังนั้นคนที่หมั่นหาความรู้จะมีโอกาสต่อยอดความรู้เหล่านั้นเพื่อให้เกิดผลงอกงามมากขึ้น

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดี ช่วยลดความเครียดในชีวิตประจำวันลงได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการหลั่งฮอร์โมนอย่างเอ็นโดฟินส์  นอกจากนั้นยังเป็นการให้เวลาตัวเองได้รักษาสภาพจิตใจให้มีสมาธิ สามารถจดจ่ออยู่กับการออกกำลังกายได้ในระยะเวลาหนึ่ง จึงช่วยทำให้ผ่อนคลายและเพิ่มพูนพลังในการรับมือเรื่องต่าง ๆ ในอนาคต

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยทำให้จิตใจสดใส ทำให้สมองอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด จึงช่วยกระตุ้นให้เกิดแนวทางที่มีประโยชน์ต่อการทำงาน จึงทำให้มีโอกาสได้แต้มต่อในการชิงไหวชิงพริบในสังคม ดังนั้นทุกคนควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 6-8 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน

ทั้ง 5 กิจวัตรประจำวันที่ได้นำเสนอไปในวันนี้ต่างส่งผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้สามารถแสดงศักยภาพของตนเองออกมาอย่างเต็มที่ การรับมือกับปัญหาหรือเงื่อนไขในชีวิตต่าง ๆ จึงสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเป้าหมายที่วาดฝันไว้จึงทำได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจได้ไม่ยากเย็น

เครียดเชิญทางนี้ มาดู 5 ความสุขสร้างง่ายด้วยตัวเอง

ความสุขทุกวันนี้มันน้อยลงเนื่องจากการทำงานหรือเรียนมีการแข่งขันกันสูง ทุกอย่างเปลี่ยนมาเป็นแบบออนไลน์รวดเร็วทันใจ ระบบที่เอาเงินไปใช้ก่อนจ่ายทีหลัง คนแต่งงานแล้วมีความอดทนน้อยลง คนโสดก็อยากโสดต่อไปเพราะไม่อยากมีภาระ ส่งผลให้คนมีความเครียด ใจร้อน เป็นหนี้และเหงามากขึ้น แต่ท่ามกลางมรสุมนั้นเรายังมีมุมเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ ความสุขของฉัน ” ที่ใครก็เอาไปไม่ได้

สุขที่ได้หายใจเต็มปอด

หลังจากที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยอึดอัดมาทั้งวัน เมื่อกลับถึงบ้านแล้วได้ถอดมันออกก็เป็นความรู้สึกที่โล่งและสดชื่นจริง ๆ เปิดหน้าต่างให้ลมธรรมชาติเข้ามาปะทะหน้าเบา ๆ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วคิดว่าวันนี้เราได้ทำดีที่สุดแล้วจงภูมิใจในตัวเอง อยู่ในภาวะนั้นสักครู่ เติมพลังให้ตัวเองก่อนจะไปทำธุระอื่น

ขอบคุณอาหารที่เรากินในทุกมื้อ

คนอื่นอาจไม่ได้กินดีแบบเรา เขาอาจไม่เงินซื้อกินและไม่มีเวลากิน ไปโรงพยาบาลแล้วดูว่าพยาบาลกับหมอกินข้าวยังไงโดยเฉพาะตอนมีคนไข้เยอะ ๆ เห็นแล้วจะรู้สึกดีกับไข่เจียว น้ำพริก ผักลวกของเรา

กาแฟหนึ่งแก้วกับงานสามถึงสี่ชั่วโมง

ช่วงเวลาของความสุขและความฮึกเหิมที่ร้อนแรงกว่าช่วงเวลาอื่น ช่วงนี้เราจะทั้งสนุก ทั้งเพลิดเพลิน และภูมิใจในความสามารถของตัวเอง ความรู้สึกถูกเติมเต็ม สดชื่น อยู่กับปัจจุบัน ไม่มีความกังวลเรื่องอนาคตหรือครุ่นคิดเรื่องอดีต และเรายังสามารถมีช่วงเวลาแบบนี้ได้หลายช่วงในหนึ่งวัน หรืออาจเป็นช่วงเช้า 1 ครั้ง ช่วงบ่ายอีก 1 ครั้ง

โลกจะเป็นยังไงก็ช่างเรายังมีซีรีส์เรื่องโปรดไว้ปลอบใจ

ซีรีส์ดีกว่าหนังยังไง เนื่องจากซีรีส์มีตอนใหม่เรื่อย ๆ ไม่ได้จบในทีเดียวเหมือนหนัง มันจึงทำให้เรารู้สึกผูกพัน อบอุ่นและมีความสุขเมื่อได้ดู เป็นความสุขที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ยิ่งดูสักตอนสองตอนก่อนนอนนะ รับรองหลับฝันดีมีรอยยิ้มด้วย

พอใจกับสิ่งที่เรามีและสิ่งที่เราเป็น

ถึงแม้ว่าหนี้บัตรเครดิตจะเยอะหน่อย ทำมาหากินก็ยาก แฟนก็ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนเหมือนคนอื่น หน้าท้องก็หนาขึ้น ๆ ความสุขลดน้อยลงแต่ว่าเรายังพอมีความสุขบ้าง ให้ดูคนอื่นที่แย่กว่า บางคนหน้าดำคร่ำเครียดตลอดเวลา บางคนนอนป่วยทำอะไรไม่ได้เลยแล้วจะดีใจที่เป็นตัวเรา อย่างน้อยก็ได้กินส้มตำอร่อย ๆ ได้ดูซีรีส์ ได้ใช้ความสามารถทำงาน มีครอบครัวคนที่รักเราและให้เรารัก มีเพื่อนฝูงและญาติมิตร ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด มีงานเลี้ยงมีปาร์ตี้ เราเข้านอนและเมื่อตื่นมาก็รอไม่ไหวที่จะใช้ชีวิตและทำสิ่งต่าง ๆ

อายุเยอะขึ้นความสุขก็น้อยลง แต่ใจเราต้องหนักแน่น อย่าไหลไปตามมันเพราะถ้าไม่พอใจเรื่องหนึ่งก็คิดไม่พอใจอีกเรื่องไม่สิ้นสุด เป็นวงจรของความหดหู่ หยุดคิดแล้วชื่นชมความสุขเล็ก ๆ ที่เรามีตอนนี้ดีกว่า ความสุขมันเก็บไว้ไม่ได้ วางแผนไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ ความสุขคือตอนนี้เท่านั้น

5 เทคนิคให้บริการดุจญาติมิตรพิชิตใจลูกค้า

การให้บริการ เป็นหัวใจสำคัญประการหนึ่งในเชื่อมความสัมพันธ์ของมนุษย์ซึ่งเป็นปัจจัยสร้างความสำเร็จในภาคธุรกิจบริการต่าง ๆ ที่สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับอนาคตของธุรกิจได้เลยทีเดียว การทำให้คนเห็นด้วยพร้อมให้ความร่วมมือและยินดีสนับสนุนด้วยความประทับใจย่อมนำมาซึ่งคุณค่าของผู้ให้บริการ เราจะบริการอย่างไรจึงจะมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ลองนำ 5 เทคนิคให้บริการดุจญาติมิตร ไปปรับใช้

การให้บริการดุจญาติมิตร คือ การให้บริการอย่างเต็มที่เสมือนลูกค้าคนนั้นคือญาติพี่น้อง หรือเพื่อนสนิทซึ่งเราย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คนที่เรารักเสมอ ลองฝึกตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ทักทายด้วยความยินดี เมื่อลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาที่ร้านหรือจุดให้บริการให้วางภารกิจต่าง ๆ ลงแล้วเข้าไปต้อนรับลูกค้าประหนึ่งเป็นคนสำคัญที่สุดในเวลานั้น ทักทายด้วยอัธยาศัยไมตรี น้ำเสียงนุ่มนวล ยิ้มแย้มแจ่มใส สบตาขณะพูด ใช้ทักษะการทักทายอย่างเป็นธรรมชาติ พยายามจดจำชื่อ หรือคุณลักษณะเฉพาะเพื่อให้ลูกค้ารับรู้ถึงความใส่ใจ

เสนอสินค้าให้ตรงโจทย์ ไถ่ถามความต้องการใช้งานที่แท้จริงของลูกค้าให้พบด้วยการสนทนาที่เป็นกันเอง คำนึงถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสำคัญ ทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงความคุ้มค่า สร้างความเชื่อใจ และอยากบอกต่อ แนะนำเพื่อน ญาติ องค์กรมาใช้บริการเพิ่มเติมด้วย การกระทำนี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับงานบริการ และเกิดการตลาดแบบบอกต่อได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่าลืมให้ความสำคัญกับผู้ติดตามด้วย เขาเหล่านั้นมีส่วนสนับสนุนให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น

อย่ายัดเยียดถ้าไม่มี หรือไม่ใช่ หากพบว่าไม่มีสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าต้องการในขณะนั้น ให้ชี้แจงตรงไปตรงมา พร้อมนำเสนอทางเลือกใหม่ที่อาจจะตอบโจทย์ได้มากขึ้น เว้นระยะให้ลูกค้าตัดสินใจไม่เร่งเร้า คอยดูแลอยู่ใกล้ ๆพร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติม แม้ไม่ซื้อวันนี้ก็ควรขอบคุณด้วยความยินดีที่ได้ให้เวลานำเสนอสินค้า เป็นการเพิ่มโอกาสการขายในครั้งถัดไป

บริการหลังการขายใส่ใจเกินร้อย ไม่ทอดทิ้ง ติดตามสอบถามการใช้งาน พร้อมเสนอความช่วยเหลือเมื่อลูกค้าต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในระดับเหนือความคาดหมาย สร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานสินค้าและจูงใจให้กลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

ปิดการขายด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริง หลังจากลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ให้ชี้แจงบริการหลังการขายอย่างชัดเจนสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า แนะนำหรือช่วยลงทะเบียนรับประกันให้เรียบร้อยป้องกันลูกค้าเสียสิทธิ์ ส่งลูกค้ากล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม และการไหว้ที่นอบน้อม ให้รู้สึกได้ว่าลูกค้าคือผู้มีพระคุณ เพราะมีลูกค้าจึงมีเรา มีร้าน มีธุรกิจในทุกวันนี้

มนุษย์ทุกคนต้องการได้รับการยอมรับ ความใส่ใจดูแล และต้องการเห็นว่าตนเองสำคัญในสายตาคนอื่น นี่คือพื้นฐานความต้องการทั่วไปที่ผู้ให้บริการทุกคนจะมองข้ามไม่ได้ ในขณะทำหน้าที่ให้บริการจงใส่คำว่า “ใส่ใจ” ลงในจิตวิญญาณเสมอ เพื่อให้บรรดาญาติมิตรที่มาเยือนประทับใจ และอยากกลับมาใช้บริการอีกในครั้งต่อไป

3 วิธีในการเลือกซื้อคอนโดให้เหมาะสมสำหรับคนโสด

ในการเลือกซื้อคอนโดนั้น ก่อนที่จะซื้อต้องคำนึงถึงการเป็นอยู่ในระยะยาวด้วย หากรู้ตัวว่าจะต้องย้ายที่อยู่บ่อย ๆ การซื้อคอนโดจึงยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ แต่หากมั่นใจแล้วว่าไม่ได้ย้ายที่อยู่อาศัยแล้ว การซื้อคอนโดจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีแน่นอน เพราะไม่ต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือนทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะคนโสดที่ต้องอยู่คนเดียว ดังนั้นการเลือกซื้อคอนโดให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งมี 3 วิธี ดังนี้

เลือกทำเลให้ใกล้กับที่ทำงาน

การมีที่อยู่อาศัยใกล้กับสถานที่ทำงาน นับว่าเป็นการประหยัดเวลาและสะดวกสบายอย่างยิ่งเวลาเดินทางไปทำงาน ข้อนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนที่จะทำการซื้อคอนโด หากเลือกซื้อคอนโดที่ห่างไกลเกินไป จะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน, ค่าทางด่วน, รวมไปถึงการสึกกร่อนของยานพาหนะที่ใช้ขับขี่ในการไปทำงาน ดังนั้นการเลือกทำเลให้ใกล้กับสถานที่ที่ทำงานจึงสำคัญมากสำหรับคนโสดที่ต้องอยู่คนเดียว แถมยังช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้ดีอีกด้วย

เลือกในราคากลาง ๆ ที่สามารถผ่อนได้ไหว

การเลือกคอนโดห้องที่มีราคาไม่สูงมาก จะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายได้อีกหนทางหนึ่ง ซึ่งเป็นผลดีสำหรับคนโสด เนื่องจากต้องผ่อนหรือซื้อคอนโดเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่จะซื้อคอนโดในราคาที่สูง ๆ เพื่อลดโอกาสการมีปัญหาทางการเงิน อีกทั้งยังช่วยให้สามารถนำเงินในส่วนนี้นำไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ ได้อีกด้วย

เลือกห้องที่มีระเบียงไม่หันชนกับห้องอื่น

สำหรับการเลือกซื้อคอนโด ฮวงจุ้ยของห้องนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากได้ห้องที่มีระเบียงหันชนกับห้องตรงข้าม จะทำให้ความเป็นส่วนตัวนั้นขาดหายไปได้ โดยเฉพาะคนโสดที่จำเป็นจะต้องอยู่คนเดียว จะทำให้ไม่ปลอดภัยจากสายตาสักเท่าไหร่ ดังนั้นการเลือกห้องที่เป็นส่วนตัวพอสมควรจึงเหมาะสมสำหรับคนโสดมากที่สุด

สำหรับทั้ง 3 วิธีในการเลือกซื้อคอนโดให้เหมาะสมกับคนโสดที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญในการอยู่อาศัยทั้งสิ้น ทั้งการประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการประหยัดน้ำมันในการเดินทางอีกด้วย โดยเฉพาะคนโสดที่ต้องการประหยัดเรื่องค่าใช้จ่าย การได้นำทั้ง 3 วิธีนี้ไปใช้จึงเป็นผลดีในการเลือกซื้อคอนโดให้ได้อย่างเหมาะสมสำหรับคนโสด หรือหากมีวิธีอื่นเพิ่มเติมก็สามารถนำมาร่วมพิจารณาก่อนทำการเลือกซื้อคอนโดได้เข่นกัน

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เสน่ห์เบาๆ ที่มีพลังดึงดูดอย่างเหลือเชื่อ

ไม่ว่าใครก็อยากดูดีมีเสน่ห์ เพราะการเป็นคนมีเสน่ห์นั้นมันรู้สึกดีจริง ๆ จะทำอะไรก็ง่ายไปเสียหมด แต่ว่าบางคนยิ่งพยายามมีเสน่ห์เท่าไหร่ยิ่งมีเสน่ห์น้อยลงเท่านั้น เสน่ห์เป็นเรื่องที่บริหารแล้วไม่รุ่งก็ร่วง แต่ไม่บริหารเลยก็คงเหมือนท่อนไม้ไร้ชีวิตชีวา หลายคนทุ่มเทให้กับเสื้อผ้าหน้าผม บุคลิก การพูดจา สิ่งเหล่านี้ถึงแม้จะดูดีแค่ไหนก็ไม่อาจสู้เสน่ห์ของสองสิ่งนี้ได้

รอยยิ้ม บางคนอาจไม่มั่นใจฟันของตัวเอง ยิ้มแล้วฟันอาจยื่น เหยิน ห่าง แต่อย่ายืมว่าโลกสดใสขึ้นทันทีถ้าเรายิ้ม เวลาแชทคุยกับใครแล้วถ้าเขาส่งรูปอีโมจิหรือสติกเกอร์หน้ายิ้มความรู้สึกเอ็นดูเขาจะมาทันที ธุรกิจหลายอย่างหันมาแชทแนวกันเองโดยใช้รูปยิ้มเยอะ ๆ เพื่อให้ลูกค้าชอบและผ่อนคลาย นี่ขนาดในโลกออนไลน์นะ ชีวิตจริงคิดดูว่าคนคนหนึ่งเมื่อยิ้มแล้วจะมีเสน่ห์ขนาดไหน เมื่อปากยิ้ม ตาก็ยิ้มด้วย และตาจะสดใสเป็นประกายแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองและอารมณ์ที่ผ่อนคลาย บางคนอาจยิ้มเยอะเกินไป ยิ้มค้าง หรือแสยะยิ้มไม่เป็นธรรมชาติยังไงก็แล้วแต่เขาเถิด ยิ้มเยอะดีกว่ายิ้มน้อย อารมณ์ทางบวกเช่นการยิ้มติดต่อกันได้ คนหนึ่งยิ้ม อีกคนเห็นก็อยากยิ้มตามโดยอัตโนมัติ

เสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะแบบสุด หัวเราะฮ่าฮ่าฮ่า เสน่ห์ลามไปห้าหลังคาเรือนทำให้คนที่ได้ยินนึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น งานเลี้ยงอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่บ้านนอกก็ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปดู ถ้าเราชวนเพื่อนมาบ้านแล้วหัวเราะเสียงดัง เพื่อนบ้านคนที่อยู่ว่าง ๆ ก็อยากมามีส่วนร่วมด้วย เด็กเล็ก ๆ ก็อาจปูเสื่อเล่นกันในบริเวณใกล้ ๆ เพราะความสุขคือแรงดึงดูดที่แรงที่สุด ใคร ๆ ก็อยากมีความสุข อยากสนุก อยากลุกเดินออกจากโลกที่ดำเนินไปอย่างราบเรียบ ณ ตอนนี้ เสียงหัวเราะก็เป็นเช่นเดียวกันกับรอยยิ้มที่ติดต่อกันได้ คนหนึ่งหัวเราะแล้วคนอีกคนก็หัวเราะตามไปด้วย

แต่บางคนอาจหัวเราะไม่เก่ง ฝึกการหัวเราะด้วยการดูคลิปตลก ๆ ที่มีมากมายบนโลกออนไลน์ พอรู้สึกขำแล้วก็หัวเราะออกมาเลยไม่ต้องกลัวเพื่อนบ้านจะตกใจ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะแอบหัวเราะด้วยความขบขันก็เป็นได้

อยากเป็นคนมีเสน่ห์ที่มีแต่คนชอบต้องยิ้มและหัวเราะ ไม่ต้องกลัวว่ายิ้มแล้วจะเห็นฟันยื่นหรือหัวเราะมาก ๆ แล้วคนอื่นจะสงสัยเรื่องสุขภาพจิต นอกจากนั้นเพื่อเสน่ห์ที่สมบูรณ์แบบใครเห็นยากที่จะห้ามใจนั้นเราควรแต่งตัวให้สะอาดเรียบร้อยถูกกาลเทศะ พูดจาไพเราะ ใจเย็น รู้จักรับฟัง แสดงน้ำใจด้วย แต่สิ่งเหล่านี้ควรเป็นธรรมชาติหรือมาจากข้างในตัวเราจริง ๆ

ทางออก ปุ๋ย แพงกับวัสดุธรรมชาติเพื่อเกษตรกร

ภายหลังสงครามรัสเซียยูเครนทำให้ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้นเกินเท่าตัว เนื่องจากรัสเซียระงับการส่งออกปุ๋ยและสินค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโต้นโยบายของชาติตะวันตก จึงทำให้ปุ๋ยในท้องตลาดขาดแคลนและมีราคาสูง เพราะรัสเซียเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยอันดับ 1 จึงทำให้ทั่วโลกประสบปัญหาปุ๋ยเคมีขาดแคลนอย่างหนัก ส่งผลให้หลายภาคส่วนเข้ามาดูแลวิกฤตปุ๋ยแพงในครั้งนี้ เพื่อที่จะหาวัสดุทดแทนในปุ๋ยเคมีบางชนิด ซึ่งจริง ๆ แล้วในประเทศไทยมีทางออกมากมายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาปุ๋ยแพงหรือปุ๋ยขาดแคลนได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำวัสดุเหลือใช้ภาคการเกษตรมาผลิตเป็นปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักหรือการใช้โดโลไมท์ซึ่งเป็นแร่ธาตุธรรมชาติที่ประเทศไทยสามารถผลิตได้เองในราคาที่ถูกแต่มีคุณประโยชน์มากมาย

โดโลไมท์ คืออะไร

โดโลไมท์ คือ ปูนชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม เป็นส่วนประกอบสำคัญและมีฤทธิ์เป็นด่าง จึงเหมาะสมในการนำมาปรับสภาพดินที่เป็นกรดให้กลับมามี PH ที่เป็นกลางหรือเหมาะสมขึ้น ซึ่งตัวโดโลไมท์ไม่ใช่มีเพียงแค่หน้าที่ในการปรับสมดุลของดินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยในการรักษาโรคพืชนานาชนิดได้อีกด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการใช้ปุ๋ยเคมีสะสมมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ดินเป็นกรด เมื่อใส่ปุ๋ยเท่าไรพืชก็ไม่สามารถนำสารอาหารเหล่านั้นไปใช้งานได้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับสภาพดินให้เป็นกลางเสียก่อน พืชจึงจะสามารถนำปุ๋ยไปใช้งานได้ตามปกติ โดยโดโลไมท์มีฤทธิ์เป็นด่างนอกจากจะช่วยในการปรับสภาพดินให้กรดกลายเป็นกลางแล้วยังมีสารสำคัญอย่างแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นธาตุอาหารรองที่ช่วยให้พืชสามารถดูดซึมแร่ธาตุต่าง ๆ ในดินได้ดีอีกด้วย

ดังนั้นในพื้นที่ที่มีการใช้ปูนโดโลไมท์การใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณมากอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป เพียงแต่หันไปใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยน้ำจุลินทรีย์ก็จะช่วยให้พืชกลับมาเจริญเติบโตได้ดีต่อไป เพราะอย่าลืมว่าการที่ดินดี ปลูกอะไรก็งามไปหมด หากแต่จะต้องบำรุงด้วยปุ๋ยคอกและปุ๋ยอินทรีย์อยู่สม่ำเสมอ สลับกับการปรับปรุงดินด้วยโดโลไมท์

แต่การใช้โดโลไมท์ที่มากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อดินและพืชด้วยได้เช่นกัน หากมีความสงสัยเกี่ยวกับดินที่ปลูกมีความเหมาะสมหรือมีฤทธิ์เป็นกรด-ด่างมากแค่ไหน ให้ทำการเก็บตัวอย่างดินไปส่งตรวจและวิเคราะห์ที่กรมพัฒนาที่ดินประจำจังหวัด เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาดินต่อไป รวมถึงคำแนะนำในการใส่ปุ๋ย ปริมาณที่พืชชนิดนั้น ๆ ต้องการ เพื่อที่จะใส่ปุ๋ยให้ตรงตามความต้องการของพืช เพราะการที่ใส่ปุ๋ยมากเกินพอดี นอกจากผลผลิตจะไม่ได้เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้พืชน็อคปุ๋ยจนเกิดความเสียหายได้ เพียงแต่ในการ

ใช้งานโดโลไมท์ ไม่ควรผสมกับปุ๋ยเคมีควรทำการหว่านลงในดินให้กระจายทั่วแปรงปลูกอย่างน้อย 14 วัน จึงจะทำการปลูกและใส่ปุ๋ยได้

ธุรกิจความงาม ปรับตัวให้เข้ากับยุคโควิดอย่างไร ?

เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจความงามและสุขภาพได้รับผลกระทบไม่น้อย กิจการซบเซาลงไป ไม่เฉพาะด้านบริการเท่านั้น แม้แต่ยอดขายเครื่องสำอางก็ลดลงเหมือนกัน แม้การฉีดวัคซีนป้องกันจะเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ผู้คนยังคงวิตกกังวลเรื่องการสัมผัสใกล้ชิด จุดประกายแนวคิดธุรกิจ “สปาไร้สัมผัส” เว้นระยะห่างเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นในยุคของความปกติใหม่

ระยะ 2-3 ปีมานี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ บ้านกลายเป็นร้านเสริมสวยชั่วคราว คลาสโยคะและฟิตเนสแบบไม่มีเทรนเนอร์ เวลานี้หลายคนเริ่มคิดถึงสปาที่เคยเข้าไปดูแลเส้นผมและผิวพรรณแต่ยังไม่พร้อมใกล้ชิดกับใคร สปาไร้สัมผัสเริ่มเข้ามาเป็นเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยม มีทั้งบริการดูแลผิวหน้าแบบไม่ต้องสัมผัส การนวดวารีบำบัดแบบใช้เครื่องอัลตรากระตุ้นจุดฝังเข็มทั่วร่างกาย ช่วยให้ผ่อนคลายบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจความงามกำลังปรับรูปแบบบริการเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม เพราะการสัมผัสตัวกันนั้นเสี่ยงอันตรายมากเกินไป

สำหรับผู้ที่นวดสปามักจะคิดว่าการนวดแผนโบราณเพื่อแก้อาการปวดเมื่อยหรือนวดปรนนิบัติผิวนั้น คงไม่มีวิธีอื่นใดมาแทนที่ได้ แต่ในยุคโควิดระบาดต้องระมัดระวังเรื่องการสัมผัสมากขึ้น จริงอยู่ที่การนวดบำบัดแบบดั้งเดิมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ทดแทนได้ด้วยสปาที่ไม่ต้องสัมผัสตัว เช่น การแช่น้ำอุ่นหรือซาวน่าแบบส่วนตัวซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันดีขึ้น ลดความเครียดและความดันโลหิตลดลง บรรเทาความเจ็บปวด ไปจนถึงการบำบัดด้วยกลิ่นหอมต่าง ๆ ที่เจ้าของธุรกิจร้านเสริมสวยและสปาต้องพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ บริการแบบไม่ต้องสัมผัสเป็นความท้าทายที่ต้องบริหารจัดการให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อระหว่างพนักงานและลูกค้า

แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงควรเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกการจองออนไลน์ ซึ่งเป็นการจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในเวลาเดียวกันอย่างเหมาะสม โดยลูกค้าต้องนัดหมายก่อนเสมอ ไม่สามารถวอล์คอินเข้าไปใช้บริการได้เลยเหมือนเมื่อก่อน ลูกค้ากำหนดเวลานัดหมายผ่านโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกสบาย เมื่อมาถึงใช้โทรศัพท์สแกนเพื่อเช็กอินและโอนจ่ายค่าบริการผ่านมือถือ หรือเลือกใช้ข้อมูลบัตรเครดิตที่เก็บไว้ในมือถือเพื่อชำระเงินโดยอัตโนมัติ หากลูกค้าต้องการใบเสร็จ ให้พนักงานส่งใบเสร็จทางอีเมลช่วยเพิ่มความคล่องตัวยิ่งขึ้น ลดการใช้กระดาษและลดการสัมผัส

ในกรณีที่มีลูกค้าหลายคนรออยู่ในแผนกต้อนรับ ยังมีการแจ้งเตือนผ่านข้อความหรืออีเมลให้ลูกค้ารออยู่ในรถก่อนอีกด้วย นับเป็นมาตรการความปลอดภัยที่ป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างลูกค้าและพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกเหนือจากร้านเสริมสวยและสปาแล้ว ธุรกิจอื่น ๆ ก็ต้องปรับตัวเช่นกัน เช่น บริการฟิตเนสเสมือนจริง คลาสโยคะออนไลน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมก่อนเกิดวิกฤตโควิดด้วย จึงเป็นธุรกิจที่ได้เปรียบเพราะไม่ต้องปรับตัวมาก สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ทุกอย่างในคลาสออกกำลังกาย ไปจนถึงการฝึกโยคะที่มีการสอนแบบเรียลไทม์ เรียนได้จากที่บ้านของตนเอง ทั้งสะดวกสบายและค่าใช้จ่ายถูกกว่าด้วย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีทั้งสำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการ รวมไปถึงช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลที่ผู้คนในยุคโควิดต้องเผชิญอีกด้วย