เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจความงามและสุขภาพได้รับผลกระทบไม่น้อย กิจการซบเซาลงไป ไม่เฉพาะด้านบริการเท่านั้น แม้แต่ยอดขายเครื่องสำอางก็ลดลงเหมือนกัน แม้การฉีดวัคซีนป้องกันจะเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ผู้คนยังคงวิตกกังวลเรื่องการสัมผัสใกล้ชิด จุดประกายแนวคิดธุรกิจ “สปาไร้สัมผัส” เว้นระยะห่างเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นในยุคของความปกติใหม่

ระยะ 2-3 ปีมานี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ บ้านกลายเป็นร้านเสริมสวยชั่วคราว คลาสโยคะและฟิตเนสแบบไม่มีเทรนเนอร์ เวลานี้หลายคนเริ่มคิดถึงสปาที่เคยเข้าไปดูแลเส้นผมและผิวพรรณแต่ยังไม่พร้อมใกล้ชิดกับใคร สปาไร้สัมผัสเริ่มเข้ามาเป็นเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยม มีทั้งบริการดูแลผิวหน้าแบบไม่ต้องสัมผัส การนวดวารีบำบัดแบบใช้เครื่องอัลตรากระตุ้นจุดฝังเข็มทั่วร่างกาย ช่วยให้ผ่อนคลายบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจความงามกำลังปรับรูปแบบบริการเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม เพราะการสัมผัสตัวกันนั้นเสี่ยงอันตรายมากเกินไป

สำหรับผู้ที่นวดสปามักจะคิดว่าการนวดแผนโบราณเพื่อแก้อาการปวดเมื่อยหรือนวดปรนนิบัติผิวนั้น คงไม่มีวิธีอื่นใดมาแทนที่ได้ แต่ในยุคโควิดระบาดต้องระมัดระวังเรื่องการสัมผัสมากขึ้น จริงอยู่ที่การนวดบำบัดแบบดั้งเดิมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ทดแทนได้ด้วยสปาที่ไม่ต้องสัมผัสตัว เช่น การแช่น้ำอุ่นหรือซาวน่าแบบส่วนตัวซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันดีขึ้น ลดความเครียดและความดันโลหิตลดลง บรรเทาความเจ็บปวด ไปจนถึงการบำบัดด้วยกลิ่นหอมต่าง ๆ ที่เจ้าของธุรกิจร้านเสริมสวยและสปาต้องพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ บริการแบบไม่ต้องสัมผัสเป็นความท้าทายที่ต้องบริหารจัดการให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อระหว่างพนักงานและลูกค้า

แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงควรเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกการจองออนไลน์ ซึ่งเป็นการจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในเวลาเดียวกันอย่างเหมาะสม โดยลูกค้าต้องนัดหมายก่อนเสมอ ไม่สามารถวอล์คอินเข้าไปใช้บริการได้เลยเหมือนเมื่อก่อน ลูกค้ากำหนดเวลานัดหมายผ่านโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกสบาย เมื่อมาถึงใช้โทรศัพท์สแกนเพื่อเช็กอินและโอนจ่ายค่าบริการผ่านมือถือ หรือเลือกใช้ข้อมูลบัตรเครดิตที่เก็บไว้ในมือถือเพื่อชำระเงินโดยอัตโนมัติ หากลูกค้าต้องการใบเสร็จ ให้พนักงานส่งใบเสร็จทางอีเมลช่วยเพิ่มความคล่องตัวยิ่งขึ้น ลดการใช้กระดาษและลดการสัมผัส

ในกรณีที่มีลูกค้าหลายคนรออยู่ในแผนกต้อนรับ ยังมีการแจ้งเตือนผ่านข้อความหรืออีเมลให้ลูกค้ารออยู่ในรถก่อนอีกด้วย นับเป็นมาตรการความปลอดภัยที่ป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างลูกค้าและพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกเหนือจากร้านเสริมสวยและสปาแล้ว ธุรกิจอื่น ๆ ก็ต้องปรับตัวเช่นกัน เช่น บริการฟิตเนสเสมือนจริง คลาสโยคะออนไลน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมก่อนเกิดวิกฤตโควิดด้วย จึงเป็นธุรกิจที่ได้เปรียบเพราะไม่ต้องปรับตัวมาก สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ทุกอย่างในคลาสออกกำลังกาย ไปจนถึงการฝึกโยคะที่มีการสอนแบบเรียลไทม์ เรียนได้จากที่บ้านของตนเอง ทั้งสะดวกสบายและค่าใช้จ่ายถูกกว่าด้วย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีทั้งสำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการ รวมไปถึงช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลที่ผู้คนในยุคโควิดต้องเผชิญอีกด้วย