การดำเนินชีวิตในแต่ละวันของแต่ละคน อาจต้องพบเจอกับปัญหามากมาย ทั้งเรื่องการเรียน การศึกษา การงาน การทำมาหากิน เรื่องของปากท้อง และเรื่องของหัวใจ ทั้งหมดอาจสร้างความเครียด ความเบื่อหน่าย และความเหนื่อยล้าให้กับร่างกายและจิตใจของพวกเราอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น เพราะสุขภาพกายใจที่ดี จะนำพามาซึ่งชีวิตที่มีความสุข ดังเช่นคำกล่าวที่ว่า “อโรคยา ปรมาลาภา” หมายถึง ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นั่นเอง แต่การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงแจ่มใสและอยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอนั้น มีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง เรามาดูไปพร้อม ๆ กัน

1. พักผ่อนอย่างเพียงพอ

ในที่นี้หมายถึงการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งร่างกายของแต่ละคนนั้นต้องการการพักผ่อนที่มากน้อยแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดควรสังเกตว่าตนเองพักผ่อนประมาณกี่ชั่วโมง จึงจะรู้สึกดี ตื่นมาแล้วไม่เหนื่อยเพลีย แต่ก็ไม่ปวดหัวเหมือนกับอาการของคนที่นอนหลับมากจนเกินไป โดยปกติแล้ว ควรนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน

แนะ 5 เคล็ดลับ เพื่อสุขภาพกายใจที่ดีอย่างยั่งยืน

2. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ของอร่อยมีอยู่ทุกที่ ของน่ากินมีอยู่ทุกซอย แต่การตามใจปาก เลือกกินแต่ของที่อยากกิน โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร อาจนำพามาซึ่งโรคร้ายหลากหลายประเภท ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหาร จึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดูแลสุขภาพ หลายคนอาจคิดว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้น ไม่อร่อยถูกปากเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็มีรสชาติที่อร่อยถูกปากได้ หากเปิดใจยอมรับประทานในช่วงแรก ๆ หรือหากรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้วอยากจะรับประทานของโปรดของตนเองบ้าง ก็ปรับเป็นรับประทานของโปรดนาน ๆ ทีก็ได้ แค่นี้อะไร ๆ ก็ลงตัวมากขึ้นแล้ว

3. ฝึกทำสมาธิ หรือแบ่งเวลาไว้เพื่อพักผ่อนทางจิตใจ

เมื่อร่างกายต้องการพักผ่อน จิตใจเองก็ต้องการการพักผ่อนด้วยเช่นเดียวกัน แต่การพักผ่อนทางจิตใจนั้นมีหลากหลายวิธี แล้วแต่ความชอบและความถนัดของแต่ละบุคคล บางคนเมื่อได้ลองฝึกทำสมาธิ ก็มีจิตใจที่ปลอดโปร่งโล่งเบาสบายมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน คิดไอเดียออกง่ายขึ้น และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น มีสติมากขึ้น บางคนอาจใช้วิธีสวดมนต์ หรือทำงานอดิเรกที่ตนเองชอบ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่สะสมอยู่ในจิตใจ

4. ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย

การออกกำลังกายที่ดี คือการออกกำลังกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเลือกชนิดให้เหมาะสมกับร่างกาย เช่น หากมีอาการบาดเจ็บที่เข่าในช่วงนี้ ก็ใช้วิธีว่ายน้ำออกกำลังกาย เมื่อหายดีก็วิ่งออกกำลังกายสลับกับโยคะ และปั่นจักรยาน แน่นอนว่าการออกกำลังกายนั้นมีผลดีกับร่างกายอย่างมาก แต่หากเลือกวิธีที่ไม่เหมาะกับตัวเอง และหักโหมมากจนเกินไป ก็อาจทำให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์ได้เช่นกัน และอย่าลืมที่จะแบ่งเวลามาออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกวัน หรือจะออกกำลังกายอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ก็ได้

5. แบ่งเวลาให้กับตัวเองและครอบครัว

เพื่อสุขภาพกายใจที่ดีอย่างยั่งยืน

หลายคนมองข้ามการให้เวลากับตัวเองและครอบครัว มัวแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนไม่ได้พักผ่อนหรือมีเวลามากพอที่จะมองเห็นและรับกำลังใจจากตัวเองและคนรอบข้าง เชื่อหรือไม่ว่าการให้เวลากับตัวเอง ให้ได้ทำอะไรที่อยากทำ การให้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงและคนที่คุณรัก จะช่วยสร้างพลังงานใหม่ ๆ เพื่อให้มีแรงกำลังสู้ต่อไปได้เป็นอย่างดี

เมื่อใส่ใจที่จะดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพจิตใจกันด้วย เพราะสุขภาพจิตที่ดี ไม่ได้ช่วยให้จิตใจของตัวเองดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถเผื่อแผ่พลังบวกและพลังใจส่งต่อให้กับคนรอบข้างได้อีกด้วย รู้เคล็ดลับดี ๆ แบบนี้แล้ว ก็ทดลองเอาไปทำตามกันได้ทันที เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพกายใจที่ดีอยู่เสมอ และตลอดไป